คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 18 ตุลาคม 2561

สวัสดีครับคุณหมอ ดร.โอ ที่เคารพ
ผมอายุ 72 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องต่อมลูกหมากโตที่จะต้องขอคำปรึกษาพร้อมคำแนะนำ ก่อนหน้านี้ผมมักจะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยมากในเวลากลางคืน ต้องเข้าห้องน้ำคืนละ 4-5 ครั้ง และปัสสาวะที่ออกมาก็ไม่พุ่ง ไหลออกมานิดหน่อยกะปริดกะปรอยสร้างความรำคาญให้กับผมมากเลย ผมจึงเข้าไปรับการตรวจจากแพทย์ที่โรงพยาบาลในจังหวัด แพทย์ตรวจร่างกายเจาะเลือดไปตรวจ บอกว่าผมป่วยเป็นต่อมลูกหมากโตจัดยามาให้กินเพื่อลดอาการดังกล่าวหลังจากกินยาได้ช่วงเวลาหนึ่ง การแข็งตัวของอวัยวะสำคัญมักจะไม่เต็มที่ สอดใส่ไม่ได้เลยผมกลับไปพบแพทย์ผู้รักษาอีกครั้ง คราวนี้ได้ยาเฉพาะกิจมากินเสริมด้วย การแข็งตัวดี แต่ไม่สามารถถึงจุดสุดยอดด้วยการหลั่งได้ ปัญหาก็คือ ผมขอถามว่ามียาชนิดไหนบ้างที่สามารถทำให้อวัยวะแข็งตัวได้ดี และถึงจุดสุดยอดได้มีบ้างไหมครับ
 
ด้วยความเคารพ
ค.ห.72

ตอบ ค.ห.72
ปกติแล้วต่อมลูกหมากจะโตขึ้นตามวัย และโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น โดยในชายวัย 45 ปีขึ้นไปพบได้มากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่เซลล์บริเวณนั้นจะเจริญเติบโตขึ้นรวดเร็ว จะพบว่าต่อมลูกหมากที่โตขึ้นนี้จะเริ่มอุดตันหลอดปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะลำบาก และการอุดตันทำให้ปัสสาวะคั่งค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะมากกว่าปกติจะสังเกตได้ว่ามักจะเกิดในผู้ชายวัยเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจโตมากจนปัสสาวะไม่ออก จนเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุเหล่านั้นได้ โรคต่อมลูกหมากโต(BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เนื่องจากตำแหน่งของต่อมลูกหมากจะอยู่ในบริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะ ด้วยเหตุที่ต่อมลูกหมากจะห่อหุ้มท่อปัสสาวะส่วนต้นได้

ดังนั้นเมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้นก็อาจกดทับท่อปัสสาวะให้ตีบเล็กลง ส่งผลให้คนไข้มีอาการปัสสาวะติดขัด นอกจากนี้ต่อมลูกหมากโตอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผนังกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เนื่องจากต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อขับน้ำปัสสาวะให้ผ่านท่อแคบ ๆ และเมื่อผนังกระเพาะปัสสาวะหนาตัวขึ้นก็จะส่งผลต่อความสามารถในการกักเก็บน้ำปัสสาวะลดลง คนไข้จึงต้องปัสสาวะบ่อย และอาจได้รับการกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะขึ้นมาอย่างกะทันหันได้ นอกจากนี้ในคนไข้ที่เป็นต่อมลูกหมากโตก็มักจะมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศตามมาไม่ว่าจะเป็นการแข็งตัวที่ไม่เต็มที่ และไม่สามารถหลั่งน้ำอสุจิได้ จึงส่งผลทำให้คนไข้กลุ่มนี้ไม่สามารถมีความสุขทางเพศได้เท่าที่ควร ปัจจุบันมียารักษาคนไข้ต่อมลูกหมากโตและมีอาการอีดีร่วมด้วย ยาที่ใช้จะเป็นยาในกลุ่มพีดีอี 5 ไอ ชนิด 24 ชั่วโมง

จากการศึกษาในคนไข้กลุ่มดังกล่าวจำนวน 511 คน และเป็นอีดี 310 คน ด้วยการใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ชนิด 24 ชั่วโมง ขนาด 5 มก. วันละครั้งเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าคนไข้มีการแข็งตัวขององคชาตดีขึ้น และอาจถึงจุดสุดยอดหลั่งน้ำอสุจิได้ ที่สำคัญคือต้องใช้วิธีฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพศและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้สามารถแข็งตัวได้ดีขึ้นถึง 100% ปรึกษาแพทย์เท่านั้นถึงจะทำได้แล้วการหลั่งก็ไม่มีปัญหา ยาเพียงช่วยได้แค่ 50% คนไข้ต่อมลูกหมากโตร่วมกับมีอาการอีดี การรักษาอาการอีดีในคนไข้แต่ละรายไม่เหมือนกัน การรักษาจะต้องอาศัยหลาย ๆ วิธีร่วมกัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้เป็นหลัก การเข้ารับคำแนะนำและรักษาฟื้นฟูอาการอีดีจากแพทย์โดยตรงจึงเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวคุณ.
................................
ดร.โอ สุขุมวิท 51