คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561

เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ
ผมอายุ 43 ปี สภาพร่างกายโดยทั่วไปผมเชื่อว่าสมบูรณ์แข็งแรงดี ไปเข้ารับการตรวจร่างกายประจำปีทุกครั้ง ผลการตรวจดีไม่มีโรคร้ายแอบแฝงอยู่ แต่ที่ไม่สมบูรณ์ก็คือสมรรถภาพทางเพศของผมมีปัญหา อวัยวะเพศไม่ยอมแข็งตัว ทั้ง ๆ ที่จิตใจของผมพร้อมสู้ตลอดเวลา อาการเช่นนี้เกิดกับผมมาได้ปีกว่าแล้ว แฟนผมอายุ 38 ปี เธอเอาใจใส่กระตุ้นเล้าโลมช่วยผมทุกครั้งเป็นอย่างดี แต่ตัวผมเองกลับไม่ได้เรื่อง ไม่ยอมสู้ขึ้นมาเฉย ๆ ตัวผมเองก็มึนเหมือนกัน ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่ทำไมสมรรถภาพทางเพศจึงไม่เอาไหนเสียเลย คุณหมอจะมีคำแนะนำอะไรให้กับผมบ้างไหม ผมเห็นชายชราวัย 80 แต่ยังแข็งแรงไม่ทราบเขากินยาอะไร
 
ด้วยความเคารพ
บ.ร.43

ตอบ บ.ร.43
โรคอีดีหรือโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเกิดจากสาเหตุทั้งทางร่างกายและจิตใจ
สรุปได้ดังนี้ คือ โรคประจำตัวที่พบมากที่สุด (ประมาณ 70%) คือโรคเบาหวานจัดเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของโรคอีดี นอกจากนี้ก็มีโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น ความเคร่งเครียดในการทำงาน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด หรือแม้แต่วัยหลังเกษียณแล้วก็ตาม ถ้าเกิดความเครียดความกังวลก็ส่งผลโรคอีดีได้ พบได้ 20% ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มาก เพราะการสูบบุหรี่จัดส่งผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากขึ้นพบได้เป็นเปอร์เซ็นต์ตามอายุ เช่น 50 ปีก็ 50% 70 ปีก็ 70%

อย่างไรก็ตามมีอายุมากขึ้นไม่ใช่สาเหตุเดียวของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่เป็นเพราะโรคประจำตัวต่าง ๆ ตามอายุ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ การรักษาอาการอีดีนั้นมีหลายวิธีทั้งยากิน ยาฉีด การบริหารกล้ามเนื้อเพศ รวมไปถึงการใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำเพื่อกระตุ้นการสร้างเลือดฝอยขึ้นมาใหม่ ตามหลักการรักษาอีดีที่ถูกต้องนั้น คนไข้จะต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ดูโรคแอบแฝงต่าง ๆ ระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน รวมทั้งต่อมลูกหมากร่วมด้วย สำหรับยากินที่ใช้รักษาอาการอีดีนั้นยังเป็นกลุ่มยาพีดีอี 5 ไอ แต่ยากลุ่มนี้จะใช้ได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องไม่มีภาวะโรคหัวใจ และไม่ได้รับยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรต ในขณะที่ยาฉีดนั้นขนาดการใช้ยา แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามระดับอาการอีดีตามที่กล่าวมาข้างต้นเพราะหากใช้ในปริมาณยาที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดแข็งตัวนานไม่อ่อนตัวเกิดผลเสียต่อคนไข้ได้ และคนไข้จะต้องได้รับการฝึกฉีดยาให้ชำนาญก่อนที่จะนำกลับไปใช้เองที่บ้านได้

การรักษาอีดีจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนเสมอ ยาไม่ใช่ขนมที่จะซื้อขายได้ง่าย ๆ คุณต้องการความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการพบแพทย์จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป วัยต่ำกว่า 50 ปี ยังมีโอกาสฟื้นตัวให้แข็งแรงทางเพศและมีความสุขได้อีกร่วม 30 ปี ขอให้ฟื้นฟูและรักษาตัวกับแพทย์ หากตามใจตัวเองรักษาตัวเองด้วยยาของเพื่อนฝูงก็มีโอกาสจะพลาดในชีวิตคู่อย่างน่าเสียดาย.
.............................
ดร.โอ สุขุมวิท 51