คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 13 ธันวาคม 2561

เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ
ผมอายุ 74 ปี ป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปีแล้ว รักษามาตั้งแต่เริ่มเป็นด้วยการกินยาควบคุมน้ำตาลมาตลอด ตอนเป็นเบาหวานแรก ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถมีความสุขทางเพศได้เมื่อต้องการ แต่พอนาน ๆ เข้าก็เกิดมีอาการที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ แต่ก็ยังพอที่จะสอดใส่ได้บ้าง กระทั่งมาเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง อวัยวะเพศของผมเงียบสงบ กระตุ้นอย่างไร เล้าโลมอย่างไรก็ไม่มีอาการกระดุกกระดิกได้เลยทำให้ผมทุกข์ใจมาก ผมมีทุกอย่างพร้อมไม่ว่าจะเป็นคู่นอน หรือคู่เคียงเมื่อต้องการ แต่ผมก็เริ่มเห็นแสงสว่างขึ้นมาบ้าง เมื่อคุณหมอบอกว่าสามารถรักษาได้ด้วยคลื่นเสียงความถี่ต่ำในกลุ่มคนที่เป็นเบาหวานแล้วมีอาการอีดีผมสนใจมากครับ จึงอยากทราบว่า อาการของผมสามารถรักษาและฟื้นฟูได้ด้วยวิธีนี้หรือไม่ เพราะผมมักจะแพ้ยาง่ายมาก ผมจึงไม่ชอบกินยา การรักษาด้วยวิธีนี้จะอยู่ได้นานไหม และจะต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องหรือไม่อย่างไรครับ
 
ด้วยความเคารพ
ธ.ล.74

ตอบ ธ.ล.74
เบาหวานแล้วอ่อนตัวมาหลายปีจุดเสื่อมมีโอกาสพบก้อนที่อวัยวะเพศซ้ำเติมการอ่อนตัว การเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (อีดี) ในผู้ชายบางรายจะมีอาการอีดีก่อนที่จะรู้ว่ามีโรคแอบแฝง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น บางรายจะมีอาการหลังจากที่ได้รับการรักษาอาการดังกล่าวมาได้สักระยะเวลาหนึ่ง อาการเริ่มแรกอาจจะเป็นอีดีระดับอ่อน ๆ หากไม่ได้รับการรักษาก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ด้วยการเกิดอาการอีดีระดับอ่อน ๆ ส่งผลให้ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาทางเพศ การเกิดอาการอีดีระดับอ่อน ๆ ที่มากกว่า 6 เดือน สามารถบ่งบอกให้ทราบว่าตัวคุณนั้นมีปัญหาทางเพศ หรือเป็นโรคอีดีที่จะต้องทำการฟื้นฟูรักษาต่อไป

การรักษาด้วยคลื่นความถี่ต่ำหรือที่เรียกว่าช็อกเวฟนั้นจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดที่องคชาตและช่วยให้เกิดการสร้างหลอดเลือดขึ้นใหม่ในองคชาตได้ดียิ่งขึ้น การรักษาจะทำทั้งหมด 12 ครั้ง หากพบว่าไม่ดีขึ้นก็สามารถยิงคลื่นความถี่ต่ำได้อีกเป็น 24 หรือ 36 ครั้ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ มีการศึกษาว่าในคนไข้ 191 ราย ซึ่งเป็นคนไข้อีดีที่ได้รับการรักษาอาการอีดีด้วยวิธีช็อกเวฟ ได้ศึกษาผลการรักษาหลังการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าว 6 เดือน เปรียบเทียบกับก่อนได้รับการรักษา ซึ่งกลุ่มที่ศึกษามีอายุเฉลี่ยคือ 59 ± 10 ปี เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน เมื่อวัดด้วยคะแนนจากแบบสอบถามสมรรถภาพทางเพศ (IIEF) มีคนไข้ 57.4% ที่มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น 6 เดือน หลังการรักษา การรักษาด้วยวิธีช็อกเวฟทำให้องคชาตแข็งตัวได้ดีขึ้นทั้งในคนไข้อีดีที่มีความรุนแรงของโรคทุกระดับ ในคนไข้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน รวมทั้งในคนไข้ที่ใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ แล้วได้ผลและไม่ได้ผล

ดังนั้นแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 6 เดือนหลังจากการรักษาวิธีช็อกเวฟ ก็ยังทำให้องคชาตแข็งตัวได้ดีอยู่ การรักษาอาการอีดีโดยไม่พึ่งยายังมีอีกวิธีที่สามารถทำได้ควบคู่กับวิธีช็อกเวฟนั่นคือการใช้เทคนิคบริหารกล้ามเนื้อเพศร่วมด้วยยิ่งทำให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น อย่าได้ตีตนก่อนไข้ โดยกังวลใจไปก่อนที่ยังไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์.
...........................
ดร.โอ สุขุมวิท 51