คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 11 มกราคม 2562

เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ ค่ะ
ดิฉันอายุ 36 ปี ส่วนสามีอายุ 47 ปี เขาเคยแต่งงานมีภรรยามาแล้ว 1 คน แต่ก็หย่าขาดกันแล้ว ดิฉันอยู่กินกับเขามาได้นานกว่า 3 ปี เรื่องความสุขทางกายและใจเต็มเปี่ยม ความสุขทางเพศก็ดีพอสมควร สุขภาพของเราทั้งสองแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยกันทั้งคู่ แต่ดิฉันก็มีปัญหาที่ทำให้ต้องหนักใจอยู่คือ สามีคนนี้เป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงคนหนึ่งทีเดียว สัปดาห์หนึ่ง ๆ ก็ราว 4-5 ครั้ง บางคืนมากกว่า 1 ครั้งก็มีจนทำให้ดิฉันเองรับไม่ไหวกับอารมณ์ทางเพศของเขาเหมือนกัน แม้ว่าดิฉันเองโดยส่วนตัวอารมณ์ทางเพศสูง แต่ไม่มากพอที่จะรับมือกับสามีได้ ทุกวันนี้ก็ทุกข์ใจพอสมควร บางครั้งบางวันก็เกิดอารมณ์เบื่อหน่ายขึ้นมาเฉย ๆ ไม่อยากให้ใครถูกเนื้อต้องตัว แต่ความรักจึงทำให้ไม่กล้าปฏิเสธ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนไปได้นานแค่ไหน ดิฉันจึงมีคำถามมาถึงคุณหมอว่า พอที่จะมีทางแก้ไขเรื่องนี้ได้บ้างไหมคะ ดิฉันขอคำแนะนำด้วยค่ะ!!
 
ด้วยความนับถือค่ะ
น.น.ล.36

ตอบ น.น.ล.36
ปัญหาของหญิงวัย 36 ปี คือสามีมีความต้องการทางเพศสูงมากจนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสามีได้ จนกลายเป็นปัญหาหนักใจของฝ่ายภรรยา ปัญหาที่ว่านี้เกิดจากการมีความต้องการทางเพศที่ไม่ตรงกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบว่าเป็นปัญหาคือ สามีความต้องการทางเพศมากกว่าฝ่ายภรรยามาก ทำให้ภรรยามีความลำบาก อึดอัดใจพักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดความรำคาญและเบื่อหน่าย บางรายหากปฏิเสธอาจได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหากสามีกระทำรุนแรง

ปัญหานี้บางครั้งก็เป็นการรบกวนภรรยามาก เช่น ภรรยาหลับอยู่สบาย ๆ สามีก็จะปลุกเพราะต้องการมีเพศสัมพันธ์ หากได้ภรรยาที่มีความต้องการทางเพศสูงเหมือนกันก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องแก้ไข แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นปัญหานี้อาจก่อให้เกิดการหย่าร้างตามมาได้ในเร็ววัน ฝ่ายชายที่ต้องการจึงไม่ควรฝืนใจฝ่ายหญิงที่ไม่ต้องการ การแก้ไขฝ่ายชายที่ต้องการนั้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง บ้างก็โหมออกกำลังทุกวัน 1-2 ชั่วโมง มีหลายวิธีเช่นวิ่งเร็วสายพาน ยกน้ำหนัก ว่ายน้ำ ให้เพลียเป็นการช่วยลดอารมณ์ทางเพศได้อย่างดีวิธีหนึ่ง โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปหาการตอบสนองทางเพศจากคนอื่น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้มากมาย

ในขณะเดียวกันฝ่ายหญิงที่ไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์ก็ควรพูดให้อีกฝ่ายทราบถึงเหตุผลด้วย เช่น รู้สึกเครียด อารมณ์ไม่ค่อยดี รู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลีย ต้องการพักผ่อน เป็นต้น ไม่ใช่ปัดป้องไม่ให้เข้าใกล้ตัวหรือผลักไสโดยไม่พูดอะไรเลย ซึ่งอาจทำให้อีกฝ่ายอาจคิดว่าถูกรังเกียจ ไม่พอใจ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ และอาจสะสมความไม่พอใจมากขึ้นทุกวันด้วยส่งผลเสียงต่อความสัมพันธ์ของสามีภรรยาได้ธรรมชาติของหญิงและชายก็ต่างกัน ผู้ชายมักจะใช้การมีเพศสัมพันธ์ช่วยลดความตึงเครียดแต่ผู้หญิงจะมีเพศสัมพันธ์นั้นจะต้องมีความพร้อมในการมีเพศสัมพันธ์คือสบายใจ ไม่เครียดและผู้หญิงจะคิดว่าสามีภรรยาอยู่ด้วยความรักอย่างเดียวได้ เรื่องเพศไม่สำคัญนัก

การใช้ชีวิตคู่จึงไม่ควรใช้เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเครื่องต่อรองในชีวิตสมรส ควรใช้ความเข้าใจและความเอื้ออาทรกันจะดีกว่า แต่โดยทั่วไปชายหญิงที่ตัดสินใจมีชีวิตคู่จึงหลีกเลี่ยงเรื่องเพศสัมพันธ์ไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรจึงจะมีเพศสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายพอใจและมีความสุขด้วยกัน หากปัญหาทางเพศไม่สามารถแก้ไขหรือหาทางออกด้วยคนสองคนไม่ได้รับการแก้ไขโดยแพทย์จะดีที่สุด.
.............................
ดร.โอ สุขุมวิท 51