คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 10 มิถุนายน 2562

สวัสดีครับ คุณหมอ ดร.โอ ที่เคารพอย่างสูง 
ผมอายุ 68 ปี อวัยวะเพศเริ่มไม่แข็งตัวมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เคยเข้ารับการตรวจที่กรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2558 แพทย์ได้ทำการตรวจด้วยการสแกนที่อวัยวะเพศ และแจ้งผลการตรวจว่าเส้นเลือดดำรั่ว จึงรักษาด้วยวิธีฉีดยาเข้าอวัยวะเพศ ซึ่งก็ได้ผลดี แต่ก็มีการปรับยา 1 ครั้งได้ใช้ฉีดมา 50 ครั้ง หลังจากนั้นก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน แพทย์ได้ทำการฉีดฮอร์โมนเพศชายและให้กินยาเม็ดเฉพาะกิจ พร้อมกับมีการตรวจหัวใจและเส้นเลือดและตรวจเลือด ผลการตรวจทราบว่ามีปัญหาเรื่องหลอดเลือดแดง แต่ยังตอบสนองต่อตัวยาที่ให้กินอยู่และพบว่าฮอร์โมนเพศชายลดลง อาการแข็งตัวก็ดีขึ้น แต่ปัจจุบันมีปัญหาเหมือนเดิมมาประมาณ 6 เดือนแล้ว ร่างกายไม่มีโรคประจำตัวอะไร จึงขอคำแนะนำจากคุณหมอ ไม่ทราบว่ารักษาได้อย่างไรในเบื้องต้นและถ้าทำการรักษาจะต้องทำอย่างไรครับ
 
ด้วยความเคารพ
วัฒน์ 68

ตอบ วัฒน์ 68
ชายวัย 68 ปี ได้รับการรักษาอีดี มาเป็นเวลานาน 5 ปี โดยการใช้ยาฉีด ประมาณ 50 หน ต่อมาได้รับการรักษาโดยการใช้ยากินคือยาเฉพาะกิจและได้รับการฉีดยาฮอร์โมนเพศชาย การรักษาอาการอีดีในสมัยที่ยังไม่มียาเฉพาะกิจ สมัยนั้นจะใช้ยาเม็ดช่วยซึ่งได้ผลราว 20-30% การใช้ยาฉีดจึงเป็นที่นิยมมากที่สุดคือทันใจ ประมาณ 10 นาที ก็จะมีการแข็งตัวได้นานถึง 1 ชั่วโมง แต่ก็มีข้อเสียคือหากใช้ยามากเกินไปจะมีอาการแข็งตัวนานเกิน 2 ชั่วโมง จะเป็นอันตรายจำเป็นรีบพบแพทย์แก้ไขอาการแข็งตัวนานเกินไปเรียกว่า Priapism ตามปกติแพทย์จะจ่ายยาอ่อนตัวให้เพื่อป้องกันไว้ก่อน หากมีการแข็งตัวนานเกิน 2-3 ชั่วโมง ก็ให้รีบกินยาอ่อนตัวทุกชั่วโมงก็จะลดอาการแข็งตัวลงได้

นอกจากนี้ยังมีการใช้อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อเพศซึ่งแพทย์จะเน้นการสอนให้คนไข้ใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อสามารถเพิ่มความแข็งแรงแก่เส้นประสาทของอวัยวะเพศที่บกพร่องได้ ตามอาการที่พบตอนนี้ถือว่าดื้อต่อยาเฉพาะกิจ คนไข้ที่ดื้อต่อยาเฉพาะกิจจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากมีการดื้อยาเฉพาะกิจสมัยก่อน วิธีที่เป็นทางเลือกสุดท้ายคือการใส่แกนซึ่งจะจำเป็นต่อคนไข้บางรายเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีวิทยาการทางการแพทย์ใหม่โดยการยิงคลื่นความถี่ต่ำไปยังเส้นเลือดบริเวณองคชาต 5 จุด หรือที่เรียกว่าวิธีช็อกเวฟ ซึ่งอาศัยหลักการเดียวกับการสลายนิ่วที่เมืองไทยมีการใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่แตกต่างกันตรงที่ช่วงคลื่นความถี่ต่ำที่ยิงเท่านั้น

วิธีช็อกเวฟจะช่วยทำให้มีการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่และทำให้เส้นเลือดเก่าที่มีการยืดหยุ่นน้อยมีการปรับสภาพซ่อมแซมตัวเองทำให้เพิ่มความยืดหยุ่น ควบคู่กับการบริหารกล้ามเนื้อเพศเป็นประจำแล้ว การแข็งตัวที่ไม่เต็มที่ก็จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องพึ่งยาเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อกลุ่มคนไข้อีดีที่ดื้อต่อยาเฉพาะกิจหรือแพ้ยาดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก แนวทางการรักษาอาการอีดีมีหลายวิธีแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาให้ ซึ่งในคนไข้แต่ละคนการรักษาย่อมแตกต่างกัน.
............................
ดร.โอ สุขุมวิท 51