ดร. โอ แพทย์คลินิกครอบครัว

เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ 
ผมมีความรู้สึกว่าอวัยวะเพศของผมแข็งตัวไม่เต็มที่ ลักษณะหัวอวัยวะเพศจะมีสีซีดเหมือนไม่มีเลือด ซึ่งต่างจากของเพื่อนจะมีสีแดงเข้มและแข็งมาก ๆ ช่วงตอนเช้า ๆ อวัยวะเพศของผมก็ไม่ค่อยจะขึ้น ตอนนี้ผมอายุ 42 ปีแล้วเคยผ่านผู้หญิงมา 3 คน ตอนนี้อยู่กับภรรยาคนล่าสุดมีลูก 3 คน ร่วมเพศกับภรรยาไม่เคยมีความสุขเลย อวัยวะเพศจะแข็งตัวแบบนิ่ม ๆ กินยาเฉพาะกิจก็ไม่ได้ผล ถ้าวันไหนได้ร่วมเพศ อีกหลายวันก็จะร่วมได้อีกเพราะไม่ค่อยจะมีอารมณ์ เมื่อปี 2559 ผมไปตรวจร่างกายพบว่าไขมันในเลือด 286 เบาหวานไม่มี ความดันก็ไม่มี ผมออกกำลังกายบ้าง และผมสังเกตอวัยวะเพศของลูกชายคนโต ส่วนหัวก็จะมีสีซีดเหมือนของผม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ครับ ผมเครียดกับเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัวตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน คุณหมอช่วยผมด้วยนะครับ
 
ด้วยความเคารพ
บ็อบ 42

ตอบ บ็อบ 42
ปัญหาของชายวัย 42 ปี คืออวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ตั้งแต่สมัยตอนเด็ก เข้าสู่วัยหนุ่มจนถึงปัจจุบันที่น่าสนใจคือหัวอวัยวะเพศจะมีสีซีดเหมือนไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง และลูกชายของเขาก็มีลักษณะเดียวกัน อาจจะมีชายบางคนหรือหลายคนที่ไม่เคยสังเกตสีของอวัยวะเพศของตัวเองซึ่งสีที่แสดงออกมาสามารถบ่งบอกอาการทางกายได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคอะไรซึ่งทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที เมื่อทำการรูดหนังหุ้มปลายลง บริเวณหัวขององคชาตจะมีสีแดงสด ชมพูระเรื่อ ขาวซีด หรือเขียวคล้ำ สีของหัวองคชาตสามารถบอกอาการได้ดังเช่นใบหน้าของเรา

หากใครมีสีของหัวองคชาต สีแดงแจ๊ด แสดงว่าเสี่ยงเป็นเบาหวาน โรคนี้พบได้บ่อยและมักทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัว แข็งตัวไม่เต็มที่ มี สีชมพู ระเรื่อ ๆ เวลาอาบน้ำแสดงว่าแข็งแรงปึ๋งปั๋ง ระบบไหลเวียนเลือดดี มี สีขาว ซีดแสดงว่าเลือดไหลเวียนมาที่อวัยวะเพศน้อย ขาดเลือดหล่อเลี้ยง มี สีเขียว ช้ำเลือดช้ำหนองแสดงว่ามีไขมันเยอะซึ่งพบได้ในคนไข้เบาหวานเรื้อรัง ไขมันสูง ติดเหล้า สูบบุหรี่จัด หากมี สีม่วง คล้ำแสดงว่ามีไขมันเยอะต้องรีบทำการรักษา

สาเหตุที่หัวอวัยวะเพศของชายวัย 42 ปี มีสีซีดก็น่าจะมาจากการมีเลือดน้อย พบได้ในกลุ่มโรคโลหิตจางหรือที่เรียกว่าเลือดจาง เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง และมีหน้าที่นำพาออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ตลอดจนแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอและเกิดภาวะคั่งของคาร์บอน ไดออกไซด์ส่งผลให้มีอาการเหนื่อยง่าย โรคนี้คือโรคธาลัสซีเมีย สาเหตุจากสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูก ความผิดปกติในการ สังเคราะห์ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง พบมากในประเทศไทย อาการจะมีอาการซีด ตาเหลือง ม้ามโต เป็นต้น ดังนั้นการคู่สามีภรรยาควรพากันไปตรวจเลือดหาพาหะของโรคก่อนที่จะวางแผนครอบครัวหรือการมีบุตร เพื่อป้องกันการมีลูกเป็นโรคดังกล่าว ใครที่เป็นโรคนี้แล้วควรได้รับการรักษา ดังนั้นคุณและลูกของคุณควรไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อทำการตรวจรักษาได้ สำหรับอาการอีดีที่เป็นอยู่ก็ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นร่วมด้วย เช่น ปัญหาหลอดเลือดแข็งตัวจากไขมันสูงในเส้นเลือด ทำให้การขยายตัวไม่ดีพอจะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยกับตัวคุณมากที่สุด.
.............................
ดร.โอ สุขุมวิท 51