คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 13 กรกฎาคม 2562

อีดีหรือโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นอาการบอกล่วงหน้าถึงอาการร้าย ๆ ต่าง ๆ ที่กำลังตามมาเป็นขบวนหัวรถไฟพ่วงโบกี้ยาว ๆ เสียงล้อรถไฟบดรางบอกมาแต่ไกล!!

อาการนี้สำคัญสุดของชีวิตผู้ชายอยู่แล้ว ทำไมถึงเฉื่อยชา ถ้าเมื่อไหร่มีอาการอ่อนตัว หลั่งเร็วให้รีบพบแพทย์ตรวจร่างกายแก้ไขทันที กู้ชีวิตตัวเองและชีวิตคู่ได้ บางอย่างใจเย็นได้ บางอย่างห้ามใจเย็น 

จากข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ระบุว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งรายใหม่กว่า 100,000 รายต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้จะเสียชีวิต ประมาณ 60,000 คน ซึ่งเป็นแล้วจะตายเร็วหรือตายช้าขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการที่เป็นอยู่ และระหว่างที่เป็นก็จะมีอีดีซ้ำเติม คือชีวิตจะลำบากซ้ำสอง

การป้องกันมะเร็งและป้องกันอีดีขณะเป็นมะเร็งจึงมีความจำเป็นและมีความเป็นไปได้ อย่าป่วย 2 โรคพร้อมกัน หลายท่านป่วยเป็นมะเร็งรักษาแล้วยังสามารถมีชีวิตแข็งแรงทางกายได้อีก 10-20 ปี แต่เมื่อพบว่ามีอีดีก็ต้องฟื้นฟูอีดีไปทันทีก็สามารถทำให้มีชีวิตอยู่อย่างชายแข็งแรงทั่วไปพบว่า บางคนก็มีคุณภาพชีวิตดีกว่าคนที่ไม่เป็นมะเร็งแต่ละเลยสุขภาพจนเป็นอีดีเรื้อรังชายที่ประมาทจึงมีความแข็งแรงทางเพศแพ้คนเป็นมะเร็งอย่างหลุดลุ่ย

คุณภาพชีวิตคนที่รักษามะเร็งและฟื้นฟูอีดีจึงมีความสุขครบสมบูรณ์อย่างนึกไม่ถึง สุขกายใจเพราะปราบมะเร็งอยู่หมัด สุขเพศดีเพราะดูแลฟื้นฟูตัวเองดีได้รับและให้ความสุขทางเพศซึ่งกันและกันอย่างดีเยี่ยมจะมีสุขภาพดีกว่าคนไม่ระวังการเลือกอาหารและไม่ออกกำลังกาย สรุปคือแข็งแรงกว่าหลายเท่าตัวทั้งทางกายและทางสุขเพศ

ปัจจุบันมะเร็งจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเช่นเดียวกับโรคเบาหวาน โรคไขมันสูง ถ้าศึกษาแล้วป้องกันเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนจะเป็นมะเร็งด้วยวิธีการที่ใกล้เคียงกับโรคเบาหวานคือศึกษาและป้องกันไม่ให้เกิด 

ดังนั้นถึงจะเกิดก็เกิดช้าที่สุดแล้วรักษาในขั้นต้นขั้นเริ่มเป็นก็พบว่าจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยยึดหลักออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างจริงจังทุกวัน หลีกเลี่ยงอาหารเป็นพิษ เนื้อหมูไก่ ทุกชนิด หลีกอาหารหวานจัด เค็มจัด เพิ่มภูมิต้านทานให้เม็ดเลือดขาว เช่น NK เซลล์ ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง

ตรวจร่างกายทุกปี ค้นหาเซลล์มะเร็งในระยะแรกให้ได้แล้วกำจัดเสีย ปรึกษาแพทย์ใกล้ชิด จะมีความสุขอยู่อย่างไร้มะเร็งไร้อีดี หรือควบคุมมะเร็งได้อยู่กันอย่างมีความสุขคือ ควบคุมการอ่อนตัวได้ ควบคุมมะเร็งได้.
................
ดร.อุ๋มอิ๋ม