คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 12 สิงหาคม 2562

สวัสดีครับ คุณหมอ ดร.โอ ที่เคารพอย่างสูง 
ผมอายุ 62 ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาเกือบ 5 ปี แต่กินยาไม่ค่อยสม่ำเสมอ ระยะปีให้หลังมานี้ ผมจะมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย บางครั้งก็เป็นลม และหากเดินขึ้นบันไดประมาณ 3-4 ครั้ง ผมก็จะมีอาการเหนื่อยมาก ใจสั่น หอบ และแน่นหน้าอก โดยทั่วไปผมกับภรรยามีเพศสัมพันธ์ไม่ค่อยบ่อยนัก นาน ๆ ครั้งถึงจะร่วมเพศ แต่ทุกครั้งที่ร่วมเพศก็จะสำเร็จทุกครั้ง แต่มีอยู่หนึ่งครั้งที่ผมกำลังอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลว ผมเข้ารับการรักษานานหลายเดือนตอนนี้อาการดีขึ้นมาก สามารถเดินขึ้นบันไดได้หลายขั้นโดยที่ไม่มีอาการเหนื่อย หอบและเจ็บหน้าอกเลย แต่ปัญหาของผมคือผมไม่กล้ามีกิจกรรมทางเพศเพราะผมกลัวจะมีผลต่อโรคที่เป็นจนเกิดอันตรายได้ ผมงดการร่วมเพศมาเกือบ 1 ปีแล้วครับ ผมเคยปรึกษาหมอที่ดูแลแล้วหมอก็ให้ความมั่นใจกับผม แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลยครับ ผมจึงอยากได้คำแนะนำจากคุณหมอว่าควรจะทำอย่างไรครับ
 
ด้วยความเคารพ
มิตร 62

ตอบ มิตร 62
มีรายงานวิจัยในคนไข้กลุ่มที่เป็นโรคหัวใจจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ และกลุ่มที่ยังไม่เป็นโรคหัวใจแต่มีแนวโน้มที่จะเป็น การร่วมเพศไม่ได้ทำให้ร่างกายทำงานหนักมากเกินไป ทั้งการใช้ออกซิเจนของร่างกายระหว่างการร่วมเพศซึ่งน้อยกว่าการเดินขึ้นบันได 2 ขั้นเสียอีก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะให้คนที่เป็นโรคหัวใจหยุดร่วมเพศหลังจากการพักรักษาตัวแล้ว 4-6 สัปดาห์ ถ้าสามารถออกกำลังกายได้ในระดับพลังงาน 6-8 แคลอรี่ต่อนาทีได้โดยไม่มีอาการผิดปกติของความดันโลหิตและชีพจร

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการในขณะร่วมเพศควรกินยา และออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะทำให้สมรรถภาพทางเพศและการทำงานของร่างกายดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามความถี่ในการร่วมเพศของคนที่เป็นโรคหัวใจไม่ควรมากกว่าที่เคยปฏิบัติอยู่ นอกจากนั้นเวลาที่เหมาะสมในการร่วมเพศของคนที่เป็นโรคนี้ควรจะเป็นตอนเช้าหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอก แน่นอึดอัดหรือเหนื่อยหอบ ก็ควรหยุดและรีบไปปรึกษาแพทย์ที่ดูแล แต่หากมีความจำเป็นต้องการงดร่วมเพศจริง ๆ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก็ต้องงดด้วย เพราะมีผลต่อร่างกายและหัวใจด้วยเช่นกัน ในกรณีที่สามารถร่วมเพศได้แต่เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมซึ่งเกิดได้บ่อยมากกับผู้ป่วยโรคหัวใจ สิ่งที่อยากแนะนำคือห้ามกินยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์พีดีอี–5 เพื่อให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวเต็มที่ ควบคู่กับการใช้ยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรทที่ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคหัวใจเพราะจะเกิดอันตรายมากถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าต้องการให้ปลอดภัย ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจแล้วมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศควรจะทราบชื่อยาที่หมอใช้ในการรักษาตัวอย่างที่ใช้เช่น Imdur Isosorbide Mamolin

กลุ่มนี้คือกลุ่มไนเตรทใช้ในกรณีเส้นเลือดหัวใจตีบจึงห้ามกินยาเฉพาะกิจทำให้ร่วมเพศไม่ได้ต้องเลี่ยงไปใช้วิธีอื่น ควรเข้ารับการฟื้นฟูอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศจากแพทย์ การซักประวัติของคนไข้กลุ่มนี้มีความสำคัญมากต่อการรักษา เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่ปลอดภัย สรุปการรักษาคงต้องใช้วิธีฟื้นฟูเส้นเลือดโดยตรง เช่น การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำ ช่วยขยายเส้นเลือดตีบให้ขยายโตและยาวเพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยในการแข็งตัวดีขึ้นใช้คู่กับวิธีขยายกล้ามเนื้อเพศพร้อมกับยาฉีดก็จะได้ประโยชน์ดีแทนยาเฉพาะกิจ ปลอดภัยมากกว่ายากิน.
...........................
ดร.โอ สุขุมวิท 51