คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 29 เมษายน 2558

มีหลายบทความของนักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้พยายามจะตอบคำถามของผู้ชายหลายคนซึ่งต้องการคำตอบว่า “ค่าเฉลี่ยขนาดขององคชาตที่ปกติคือเท่าไหร่”

การค้นพบต่าง ๆ ซึ่งได้ตีพิมพ์มักจะกล่าวถึงข้อมูลภูมิหลังของปัญหา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลของผู้ชายเกี่ยวกับขนาดขององคชาต ว่ามีขนาดใหญ่ไม่เพียงพอหรือไม่ และคู่นอนมีความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่

ดังนั้นอะไรคือความเป็นจริง โดยเฉพาะความจริงเกี่ยวกับความยาวและเส้นรอบวงขององคชาตผู้ชายอาจคลุมเครือหรือไม่กระจ่างชัดเจน อาจเป็นเพราะสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต (internet pornography) ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและกระจายไปทั่วได้โดยง่าย

บางทีอาจไม่ต้องประหลาดใจที่นักวิจัยมักกล่าวว่า ผู้ชายมีความวิตกกังวลสูงเกี่ยวกับความเป็นลูกผู้ชาย และธุรกิจ ซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็วได้ผลักดันสัญญาบางประการอย่างไม่แน่ใจ ว่าจะทำให้องคชาตใหญ่ขึ้นกว่าเดิมผ่านการทำให้ขยายและยืดออกไป ความวิตกกังวลซึ่งไม่มีเหตุผลเกี่ยวกับความไม่เพียงพอของขนาดองคชาตไม่ได้ลดลง

โดยความจริงคือความเห็นเกี่ยวกับองคชาตของตัวเองในผู้ชายจะเป็นโดยอัตโนมัติว่าของตนเองจะดูเล็กลงเมื่อเปรียบเทียบกับของคนอื่น ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาหรือเป็นปกติจากการมองข้ามองคชาต อันเป็นผลจากการกระทำดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ดูองคชาตเล็กลงเมื่อเปรียบเทียบกับการมองตรงหรือมองจากด้านข้างขององคชาต

ดังนั้นการมององคชาตของตัวเองเป็นความเห็นที่เชื่อถือไม่ได้ และเปรียบเทียบกับส่วนที่ยื่นออกไปของชายอื่นจากภาพที่มองแตกต่างกันออกไป อาจเสริมความคิดแบบผิดของขนาดขององคชาต

ความจริงของค่าเฉลี่ยของขนาดองคชาตถูกต้องหรือไม่ ในงานวิจัยหนึ่งให้กุญแจสำคัญบางประการของค่าเฉลี่ยขนาดขององคชาตคือพบว่า ร้อยละ 85 ของผู้หญิงมีความพึงพอใจในขนาดและสัดส่วนขององคชาตคู่นอน ในขณะที่ผู้ชายมีความมั่นใจน้อยกว่า ร้อยละ 45 ของผู้ชายในการศึกษาดังกล่าวเชื่อว่าองคชาตของตัวเองมีขนาดเล็ก

การศึกษาทั่วทั้งหมดสรุปว่า ความยาวขององคชาตในขณะอ่อนนิ่ม (flaccid) ประมาณ 7-10 เซนติเมตร (2.8-3.9 นิ้ว) ส่วนเส้นรอบวงขององคชาตระยะอ่อนนิ่มประมาณ 9-10 เซนติเมตร (3.5-3.9 นิ้ว) ความยาวขององคชาตระยะแข็งตัวประมาณ 12-16 เซนติเมตร (4.7-6.3 นิ้ว) ค่าเส้นรอบวงขององคชาตประมาณ 12 เซนติเมตร (4.7 นิ้ว).

รศ.น.ท.ดร.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล
คลินิกสุขภาพชาย
หน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ
ภาควิชาศัลยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล