คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 27 ตุลาคม 2563

เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมมีเรื่องหนักใจเหลือเกินพยายามแก้ไขทุกวิถีทางแต่ก็ไม่ได้ผล โชคดีที่มีคอลัมน์ของคุณหมอในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ที่ผมอ่านเป็นประจำ จึงมีความกล้าเขียนจดหมายมาขอคำแนะนำกับเพื่อนชายผู้กล้าหาญหลาย ๆ ท่าน ปัจจุบันผมอายุ 62 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะสำคัญประจำตัว ส่วนร่างกายปกติดี แต่อวัยวะสำคัญผมจู่ ๆ ก็ไม่ยอมแข็งตัวขึ้นมาเฉย ๆ ผมสังเกตดูพบว่าตรงขอบของลำตัว มีลักษณะปริเหมือนแผล บางครั้งก็มีเลือดซึมออกมาบ้างเล็กน้อย อาการดังกล่าวนี้เป็นมาหลายปีแล้ว ผมเลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ มาเกือบ 20 ปี และไม่มีโรคประจำตัว แต่ไม่เคยตรวจเบาหวาน อาการที่ผมเป็นอยู่นี้เกิดมาจากสาเหตุใด และจะสามารถรักษาให้หายไปได้หรือไม่ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้การแข็งตัวลดลงไปหรือเปล่า ตอนนี้ร่วมเพศไม่ได้แล้วถึงจะอายุเข้าเลข 6 ย่างเลข 7 แต่ความต้องการเท่าวัยหนุ่ม ฝ่ายหญิงหมดไปนานแล้ว ต้องออกไปหาความสุขนอกบ้านตามประสาคนสูงวัย แต่อายสาว ๆ อย่างมากเพราะอวัยวะเพศไม่สู้ นกเขาไม่ขัน ขอให้คุณหมอตอบให้ทราบด้วยครับ
 
ด้วยความนับถือ
ภูมิ 62

ตอบ ภูมิ 62
อาการของคุณที่เป็นอยู่ขณะนี้แบ่งได้ 2 อาการ คือ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว เป็นการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและมีหนังหุ้มปลายแตกปริ อาการลักษณะแบบนี้ มักจะมีภาวะเบาหวานแฝงอยู่ด้วย วัย 62 ปี ระดับน้ำตาลในเลือดก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งโดยตรวจค่าน้ำตาลสะสม (HbA1c) ที่ควรตรวจควบคู่กับระดับไขมันในเลือด ผู้ป่วยบางรายเมื่อรู้ว่าจะไปเจาะเลือดตรวจดูน้ำตาลก็เกิดการกลัวทำให้งดน้ำอาหารเกิน 8 ชั่วโมง ในบางรายถึง 12 ชั่วโมง ถึงจะเข้ารับการเจาะเลือดจึงทำให้ผลระดับน้ำตาลไม่ถูกต้องต่ำเกินจริง และน้อยกว่าค่าปกติจึงเข้าใจว่าไม่เป็นเบาหวาน

ดังนั้นการหาค่าเบาหวานที่ดีที่สุด คือ หาระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c) โดยไม่ต้องงดอาหารเช้าก่อนตรวจเป็นค่าที่บ่งบอกถึงระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 8-12 สัปดาห์ก่อนการตรวจ เป็นค่าประเมินผลการควบคุมเบาหวานได้ดีกว่าการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเพียงอย่างเดียว หากพบความผิดปกติก็เข้ารับการตรวจรักษาและควบคุมอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล

ส่วนอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ต้องเข้าพบแพทย์ตรวจร่างกายหาสาเหตุของโรคอีดีดังกล่าว เพราะอาการอีดีจะไม่สามารถเกิดได้เองจะเป็นอาการแทรกซ้อนจากโรคทางกายต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือด ความดันโลหิตสูงรวมไปถึงเมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลงและมีความผิดปกติที่ต่อมลูกหมาก แต่ถ้าฮอร์โมนเพศชายต่ำก็ต้องเข้ารับการเสริมฮอร์โมนเพศชายทดแทนจากแพทย์

การแข็งตัวของอวัยวะเพศจะกลับมาดังเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวคุณ หากคุณอายที่จะรักษาจากแพทย์ความทุกข์ก็จะตามมาหลอกหลอนตลอดไป แต่ถ้ายอมระงับความอายแล้วพบแพทย์ตรวจหาสาเหตุของโรคก็จะแก้ไขได้ตามหลักการแพทย์ เช่น ป่วยเป็นโรคกระเพาะก็ต้องรักษา การรักษาโรคอ่อนตัวจึงเป็นเรื่องตรงไปตรงมา เป็นเรื่องของคนไข้กับแพทย์.
........................
ดร.โอ สุขุมวิท 51...