คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 23 ตุลาคม 2559

เรียนคุณหมอ ดร.โอ ที่นับถือ
        
ผมอายุ 70 ปี กำลังมีปัญหาอย่างยิ่งในเรื่องทางเพศ กล่าวคือ การแข็งตัวของอวัยวะเพศมีปัญหาอย่างมากแข็งตัวไม่ได้เต็มที่ อีกทั้งมักจะอ่อนตัวไวมาก ส่วนทางด้านสุขภาพร่างกายของผมก็มีปัญหาด้วยเหมือนกัน เพราะผมป่วยเป็นโรคหัวใจมานานหลายปีแล้ว ทุกวันนี้ผมยังต้องไปพบแพทย์รับการตรวจรักษาดูแลตามนัด ตรวจเลือด น้ำตาลในเลือด ความดัน ภาวะการเต้นของหัวใจและได้รับยามาต้องกินทุกวันเช้า-เย็น และก่อนนอน อีกด้วย ซึ่งยาที่ได้รับมากินนั้น แพทย์ผู้ตรวจบอกว่าบางตัวเป็นยากลุ่มไนเตรตมีลักษณะเป็นแคปซูลต้องกินทุกวัน ๆ ละเม็ดหลังอาหาร ซึ่งแพทย์ได้เตือนมาด้วยว่าให้ระวังห้ามกินยาเฉพาะกิจที่ช่วยให้เกิดการแข็งตัวเพราะผลข้างเคียงของยา
        
ผมจึงมีคำถามว่าผมยังอยากมีความสุขทางเพศเหมือนเช่นชายทั่วไป และหากว่าผมจะมีความสุขทางเพศในช่วงบ่ายหรือเย็นนั้นจะของดการกินยาโรคหัวใจแล้วไปกินยาเฉพาะกิจที่ช่วยให้แข็งตัวมีความสุขทางเพศบ้างจะทำได้หรือไม่ อย่างไร ขอคำอธิบายให้กับผมโดยด่วนด้วยนะครับ เพราะผมยังมีความอยากและปรารถนาที่จะมีความสุขทางเพศอีกต่อไป
                       
ด้วยความนับถือ
                             
ช.70

*************************************************

ตอบ คุณ ช.70
        
ชายวัย 70 ป่วยเป็นโรคหัวใจและได้รับการรักษาด้วยการกินยากลุ่มไนเตรตอยู่ ขณะเดียวกันก็มีปัญหาโรคอีดีทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้ จริงอยู่การใช้ยากลุ่มไนเตรตในผู้ป่วยโรคหัวใจถือเป็นข้อห้ามใช้เฉพาะกิจเพราะจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แต่การฟื้นฟูอาการอีดีในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับยากลุ่มไนเตรตอยู่นั้นสามารถฟื้นฟูได้โดยไม่ต้องใช้ยากิน จะรักษาโดยการใช้ยาฉีด ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ง่ายและเร็วบ้างก็ฟื้นฟูขยายกล้ามเนื้อเพศก็ได้ผลสุดท้ายคือ การใช้คลื่นกระแทกภายนอกยิงไปยังเส้นเลือดที่องคชาตเพิ่มการไหลเวียนเลือดเข้าเส้นเลือดที่องคชาตได้ดีและมากขึ้น ทำให้เกิดการแข็งตัวได้ง่าย และเป็นการฟื้นฟูอาการอีดีระยะยาวด้วย ไม่มีผลข้างเคียงต่อตัวคนไข้ทั้งในขณะรักษาและหลังการรักษา
        
คนไข้หัวใจที่มีอาการอีดีจึงไม่ควรกังวลใจกับการใช้ยากินอีกต่อไป เพราะมีแนวทางการรักษาหลากหลายเพียงแต่ขอให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ การที่คนไข้โรคหัวใจงดกินยารักษาอาการป่วยเพื่อมาใช้ยาเฉพาะกิจเป็นการตัดสินใจที่ผิด ไม่แนะนำให้กระทำเพราะจะเกิดอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น การหยุดรักษาโรคหัวใจควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแลว่าเห็นสมควรแก่การหยุดยา เปลี่ยนยาหัวใจไปเป็นกลุ่มอื่น ซึ่งแพทย์จะต้องพิจารณาจากการป่วยที่เป็นอยู่เป็นสำคัญ การรักษาอาการอีดีในผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องใช้ยาเฉพาะกิจ แพทย์จะเน้นเรื่องความปลอดภัยต่อตัวคนไข้มากที่สุด แพทย์จะเป็นผู้เลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่คนไข้ร่วมด้วย
        
คำแนะนำที่ดีคือให้คุณเข้ารับการปรึกษาและฟื้นฟูกับแพทย์โดยตรงจะดีกว่า อย่าตัดสินใจเองเพราะเท่ากับเป็นการเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ จึงขอเตือนไว้ว่าอย่าประมาท
        
ท่านใดที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่จะต้องขอถามหรือขอคำแนะนำปรึกษาให้โทรฯ ได้ที่เบอร์ 08-1814-5441, 09-9494-3336 เว็บไซต์ www.meetdoctoro.com Line ID : droclinic

..........................................
ดร.โอ สุขุมวิท 51...