คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 7 ตุลาคม 2562

สวัสดีครับคุณหมอ ดร.โอ ที่เคารพอย่างสูง
ผมอายุ 63 ปี ก่อนหน้านี้สุขภาพร่างกายของผมสมบูรณ์แข็งแรงครับ ผมเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีซึ่งผลออกมาน้ำตาล และไขมันในเลือดเป็นปกติ ความดันเลือดก็เป็นปกติ หัวใจก็แข็งแรง หลังจากนั้นประมาณ 2 ปีมานี้ผมเริ่มมีอาการกินอาหารอะไรก็มักจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่ายมาก อารมณ์ก็มักแปรปรวนอยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เหนื่อยง่ายขึ้น นอนไม่ค่อยหลับ ผมจึงไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ หมอพบว่าผมมีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงเยอะ และยังตรวจพบว่าผมมีระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงขึ้น จึงให้กินยาลดน้ำตาล และไขมัน จากนั้นผมก็เริ่มมีอาการอวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งเต็มที่ และอ่อนตัวไวมากเมื่อสอดใส่เข้าช่องคลอด ทำให้ผมกับภรรยาวัย 50 ปีไม่มีความสุขทางเพศเลย ผมและภรรยาไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลยสักครั้ง กลุ้มใจมาก จึงอยากได้คำแนะนำวิธีการรักษาที่พอให้ผมร่วมเพศกับภรรยาได้สักอาทิตย์ละครั้งก็พอแล้วครับ
 
ด้วยความเคารพ
ฬาร 63

ตอบ ฬาร 63
ปัญหาของชายวัย 63 ปี คือเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน ก็เริ่มพบว่าร่างกายมีโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พร้อมกับอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่สร้างปัญหาหนักใจให้กับชายหลายคนเพราะไม่สามารถมีความสุขทางเพศได้เต็มที่ จากการศึกษาในคนอ้วนและไม่เป็นเบาหวานจำนวน 80 คน (มีค่า BMI เฉลี่ย 46 ± 5.4 kg/m) ได้รับการตรวจร่างกายหาค่าไขมัน ระดับน้ำตาล ฮอร์โมนอินซูลิน ความดันโลหิต ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน SHBG เพื่อคำนวณหาค่าฟรีเทสโทสเตอโรน (Free testosterone) พร้อมทั้งซักประวัติ พบว่า คนอ้วน 42% มีระดับฮอร์โมนเพศเทสโทสเตอโรนต่ำ (น้อยกว่า 300ng/dI) ระดับไขมันไตรกรีเซอไรด์สูง ไขมันเอชดีแอล (HDL-C) ต่ำ มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินสูงขึ้นทำให้เกิดเบาหวานได้ง่ายกว่าคนที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนปกติ
จากการศึกษาดังกล่าวจึงทำให้พบว่าการมีระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนต่ำมักจะพบในคนอ้วน และยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งระยะเริ่มแรก ทำให้ดื้อต่ออินซูลินเป็นเบาหวานได้ง่ายขึ้น มีไขมันผิดปกติ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจสูงขึ้น ความดันโลหิตสูง การแก้ไขภาวะพร่องฮอร์โมนด้วยการเสริมฮอร์โมนชายทดแทนเพื่อปรับระดับของฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบบหลอดเลือดหัวใจได้ สำหรับการฟื้นฟูอาการอีดีมีหลายวิธีไม่ว่าจะใช้ยากิน ยาฉีดและอุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อ แต่ต้องทำควบคู่กับการให้ฮอร์โมนทดแทน จึงจะสามารถร่วมเพศได้เหมือนเดิม

ฉะนั้นคุณจึงควรพบแพทย์โดยด่วนเพื่อฟื้นฟูอาการอีดีที่เป็นอยู่ การดูแลสุขภาพก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญด้วย ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมอาหารไม่กินของหวาน ของมัน ของทอด เข้าพบแพทย์และกินยาอย่างต่อเนื่องทั้งโรคทางกายและอาการอีดี จะได้มีสุขภาพดีทั้งทางกายใจ และเพศเหมือนตอนสมัยหนุ่ม ๆ
.............................
ดร.โอ สุขุมวิท 51...