คอลัมน์ “เสพสม”

เสพสมบ่มิสม วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560

ฮอร์โมนในผู้ชายตัวที่สำคัญที่สุดคือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testoste-rone) ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงตามอายุของอวัยวะสืบพันธุ์ให้มีการเปลี่ยนแปลงจากเด็กจนเป็นหนุ่มให้มีลักษณะที่แสดงความเป็นผู้ชาย ในช่วงวัยประมาณ 40-45 ปี การสร้างฮอร์โมนเพศชายก็จะช้าลง เนื่องจากอัณฑะซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพศทำงานลดลง นอกจากนี้ฮอร์โมนเพศชายอิสระยังถูกโปรตีนในกระแสเลือดจับเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีฮอร์โมนเพศทำงานได้น้อยลง จนเกิดเป็นสภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ

ชายหลายคนมีความเคยชินกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ค่อยเป็นค่อยไปจนอาจไม่ทันสังเกตว่าร่างกายนั้นมีการเสื่อมลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย เช่น กล้ามเนื้อทั้งร่างกายลีบลง อ่อนแอลง เส้นผมที่เคยดกหนาบางลง และหลุดร่วงได้ง่าย อีกทั้งความจำก็เสื่อมลง น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น จนพุงยื่นเห็นชัดเจน หมดเรี่ยวแรง

ที่น่าตกใจที่สุดคือสมรรถภาพทางเพศลดลงอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หดเล็กลง ความต้องการทางเพศลดลง จนไม่มีความต้องการทางเพศซึ่งพบบ่อยมากในชายวัย 50 ปีขึ้นไป

ปัจจุบันมีการให้ฮอร์โมนทดแทนหลายวิธี อาทิ แบบฉีดทุก 3 เดือน ทุก 1 เดือน แบบกิน และแบบทาที่ผิวหนัง ผลดีของการให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนคือทำให้กระดูกมีความหนาแน่นขึ้น ป้องกันภาวะกระดูกพรุน กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ลดไขมันส่วนเกิน (ลงพุง) ทำให้ความจำและอารมณ์ดีขึ้น ลดอาการซึมเศร้า ทำให้มีความรู้สึกและความต้องการทางเพศดีขึ้น

การเสริมฮอร์โมนฝ่ายแพทย์จะพิจารณาว่ามีอันตรายที่จะเสริมหรือไม่หากอันตรายก็จะเลี่ยงไปใช้วิธีอื่น หากปลอดภัยก็จะเสริมให้ได้เป็นการคืนความแข็งแรงทางเพศให้ได้ผลภายใน 2 อาทิตย์ถึง 4 อาทิตย์

ดังนั้นหากคุณผู้ชายกำลังมีปัญหาเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

ท่านใดที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่จะต้องขอถามหรือขอคำแนะนำปรึกษาให้โทรฯ ได้ที่เบอร์ 08-1814-5441, 09-9494-3336 และเว็บไซต์ www.meetdoctoro.com Line ID : droclinic

................
ดร.อุ๋มอิ๋ม...